ดักหน้า รร. ปืนจี้นร.หญิงชิงมือถือ เหยื่อสวย-หิ้วขึ้นรถข่มขืนซ้ำ!!

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมดวย พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม รอง ผกก.สส.และ พ.ต.ต.วันชัย สุวรรณรัตน์ สว.สส.นำหมายศาลจังหวัด
นครศรีธรรมราช ที่ 236/2557 เข้าทำการจับกุมตัว นายวิชาญ หรือ สุด โอชารส อายุ 23 ปี อยู่ ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่รับอนุญาต , ร่วมกันชิงทรัพย์ โดยมีและใช้อาวุธปืน และร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร ซึ่งได้กระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

 โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายวิชาญ ผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ ซอย ณ นคร ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง ก่อนจะนำตัวไปยึดของกลางโทรศัพท์มือถือที่นายวิชาญ นำไปจำนำตามร้านจำนำต่างๆ และสามารถยึดของกลางมาได้จำนวน 18 เครื่อง และจากการสอบสวนพบว่านายวิชาญ ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นนักเรียนหญิง โดยร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน ตระเวนไปตามหน้าโรงเรียนต่างๆ เมื่อเจอนักเรียนหญิงที่เดินอยู่คนเดียว ก็จะเข้าไปทำทีสอบถามทาง ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้แล้วชิงเอาโทรศัพท์มือถือไป ซึ่งทำมาแล้วหลายสิบครั้ง

 นอกจากจะก่อเหตุชิงเอาโทรศัพท์มือถือแล้ว พบว่าเหยื่อนักเรียนหญิงบางรายที่หน้าตาดี จะถูกนายวิชาญ ร่วมกับเพื่อนจี้บังคับพาขึ้นรถ จยย. แล้วพาไปข่มขืนอนาจารหลายรายเช่นกัน สร้างความเดือดร้อนให้กับเด็กนักเรียนมานับครั้งไม่ถ้วน หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจไว้ที่ สภ.เมือง เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบแน่ชัดว่า 1 ใน 2 คนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวนี้มีนายวิชาญ เป็นหัวโจก จึงรวบรวมพยานหลักฐานและไปขอหมายศาลเพื่อออกหมายจับ หลังศาลอนุมัติ เจ้าหน้าที่จึงออกตามล่าตัวนายวิชาญ และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

 จากการสอบปากคำนายวิชาญ ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และทุกข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ทรัพย์สินที่จี้มาได้ เอาไปจำนำตามร้านรับจำนำแล้วเอาเงินมาแบ่งกับเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุนำไปเที่ยวเตร่ ก่อนมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนขยายผล พบว่าได้วิ่งราวโทรศัพท์มือจากเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่อำเภอเมืองหลายราย ก่อนนำตัวไปตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ ซึ่งผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกจี้ชิงทรัพย์ให้มาชี้ตัวคนร้ายได้ที่ สภ.เมือง จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน และจะติดตามเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1433302293

แชร์เรื่องนี้